โรคภูมิแพ้เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองเกินขนาดต่อสารก่อภูมิแพ้ที่ปกติจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อคนทั่วไป การเกิดภูมิแพ้ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันอาจมีสาเหตุจากพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม หรือสารก่อภูมิแพ้ในชีวิตประจำวัน แต่ในมุมมองของแพทย์แผนจีน ภูมิแพ้เกิดจากความไม่สมดุลภายในร่างกาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานที่ผิดปกติของอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ม้าม และไต
สาเหตุของภูมิแพ้ในมุมมองแพทย์แผนจีน
แพทย์แผนจีนระบุว่าสาเหตุของโรคภูมิแพ้แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก: สาเหตุภายนอกและสาเหตุภายใน
1. สาเหตุภายนอก:
สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง มลพิษ ลมเย็น หรือความร้อนที่มากเกินไป ล้วนเป็นปัจจัยที่กระทบต่อร่างกายและทำให้เกิดอาการภูมิแพ้
2. สาเหตุภายใน:
การทำงานที่ผิดปกติของอวัยวะภายใน เช่น ปอด ม้าม และไต ทำให้เว่ยชี่ (พลังป้องกันของร่างกาย) อ่อนแอ ส่งผลให้ร่างกายรับสารก่อภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น และเกิดอาการต่างๆ ของภูมิแพ้
อาการและการวินิจฉัยในแพทย์แผนจีน
1. ปอดพร่อง:
ผู้ที่ปอดพร่องจะมีอาการคันจมูก จามบ่อย น้ำมูกใส คัดจมูก และอาจมีอาการไอร่วมด้วย เหงื่อออกง่ายโดยเฉพาะตอนกลางวัน
2. ม้ามพร่อง:
อาการภูมิแพ้ที่เกิดจากม้ามพร่องมักจะมีลักษณะเป็นๆ หายๆ น้ำมูกใสและคัดจมูกเป็นเวลานาน มีอาการท้องอืด เบื่ออาหาร แขนขาเมื่อยหนัก
3. ไตพร่อง:
อาการภูมิแพ้ที่เกิดจากไตพร่องจะเป็นเรื้อรัง เช่น จามบ่อย น้ำมูกใสปริมาณมาก คัดจมูก ร่างกายอ่อนแอ หนาวง่าย มือเท้าเย็น เมื่อยล้า และอสุจิเคลื่อนง่าย
การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการภูมิแพ้
การฝังเข็มในแพทย์แผนจีนมุ่งเน้นที่การปรับสมดุลภายในร่างกาย โดยการกระตุ้นจุดฝังเข็มที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะที่มีความบกพร่อง เช่น การฝังเข็มที่จุดที่เชื่อมโยงกับปอด ม้าม และไต เพื่อเสริมสร้างพลังของอวัยวะเหล่านี้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง และสามารถลดความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ได้
ต้องฝังเข็มนานขนาดไหนถึงจะหาย?
หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยสำหรับผู้ที่สนใจการฝังเข็มเพื่อรักษาอาการภูมิแพ้คือ ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการฝังเข็มเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ในการแพทย์แผนจีน การรักษาภูมิแพ้ด้วยการฝังเข็มจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และความแข็งแรงของร่างกายผู้ป่วยแต่ละคน
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังจากการฝังเข็มครั้งแรกๆ แต่อาจต้องใช้การฝังเข็มต่อเนื่อง 5-10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการภูมิแพ้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้แนะนำระยะเวลาและความถี่ที่เหมาะสมเพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้กลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่
จะกลับมาเป็นอีกไหม?
อีกหนึ่งข้อสงสัยที่ผู้ป่วยหลายคนมีคือ หลังจากที่รักษาด้วยการฝังเข็มแล้ว อาการภูมิแพ้จะกลับมาเป็นอีกหรือไม่ การฝังเข็มช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งช่วยลดโอกาสในการเกิดอาการภูมิแพ้ซ้ำได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการรักษาและการป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การดูแลสุขภาพหลังการรักษา, การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้, และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
หากผู้ป่วยดูแลสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างดี โอกาสที่อาการภูมิแพ้จะกลับมาเป็นอีกก็จะลดลงอย่างมาก แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงจากพันธุกรรมหรือสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้อย่างต่อเนื่อง อาจมีโอกาสที่อาการจะกลับมาเป็นซ้ำได้ แพทย์จึงอาจแนะนำให้มารับการฝังเข็มในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้ซ้ำ
การฝังเข็มเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการภูมิแพ้ โดยใช้ระยะเวลาและความถี่ในการฝังเข็มตามความรุนแรงของอาการและสภาพร่างกายของผู้ป่วย แม้ว่าการฝังเข็มจะช่วยลดโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำได้ แต่การดูแลสุขภาพและการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้อาการภูมิแพ้กลับมาเป็นอีก