อาการมือชาและปวดปลายประสาทคืออะไร?
อาการมือชาและปวดปลายประสาทเป็นความผิดปกติที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ ผู้ป่วยมักจะรู้สึกชา เสียวแปลบ หรือปวดตามแขนและมือ บางครั้งอาจลามไปถึงไหล่และคอ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมาก
สาเหตุของอาการมือชาและปวดปลายประสาท
สาเหตุหลักของอาการเหล่านี้มักเกิดจาก:
- การใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
- ท่าทางการทำงานที่ไม่ถูกต้อง
- การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุ
- โรคทางระบบประสาท เช่น โรคเส้นประสาทถูกกดทับ
จากสถิติพบว่า 15-20% ของคนทำงานออฟฟิศมีอาการมือชาและปวดปลายประสาท
การรักษาทางแพทย์แผนจีน
การฝังเข็มเป็นวิธีการรักษาทางแพทย์แผนจีนที่มีประสิทธิภาพสูงในการบรรเทาอาการมือชาและปวดปลายประสาท โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- การวินิจฉัย: แพทย์จะตรวจร่างกายและซักประวัติอย่างละเอียด
- การฝังเข็ม: ใช้เข็มบางพิเศษฝังตามจุดต่างๆ บนร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณมือ แขน และไหล่
- การกระตุ้นเข็ม: อาจใช้ไฟฟ้าหรือความร้อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา
- ระยะเวลารักษา: โดยทั่วไปใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
การศึกษาพบว่า 70% ของผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นหลังการรักษาด้วยการฝังเข็ม
การดูแลตัวเองหลังการรักษา
เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ควรปฏิบัติดังนี้:
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการใช้งานมือและแขนมากเกินไป
- ทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นประจำ
- ปรับท่าทางการทำงานให้ถูกต้อง
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะ หรือไทชิ
การออกกำลังกายที่เหมาะสม
การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้มีอาการมือชาและปวดปลายประสาท ได้แก่:
- การบริหารข้อมือและนิ้วมือ
- การยืดเหยียดกล้ามเนื้อคอและไหล่
- การเดินเร็วหรือว่ายน้ำเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด
ควรทำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 15-30 นาที อย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
การรักษาอาการมือชาและปวดปลายประสาทด้วยการฝังเข็มเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดูแลตัวเองและการออกกำลังกายที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
คลินิกแพทย์แผนจีนของเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มโดยเฉพาะ พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน เรามุ่งมั่นในการให้บริการรักษาอาการมือชาและปวดปลายประสาทอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์กว่า 5 ปี เราพร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง